เอาเข้าจริงสายสัญญาณปลอม เราเชื่อว่าไม่น่าจะมีหรอก ยกเว้นก็แต่สายสัญญาณที่ไม่มีคุณภาพ แบบนั้นน่ะ มีแน่ๆ 

บทความนี้ LINK อยากจะขอแนะนำ ข้อสังเกตง่ายๆ เกี่ยวกับสินค้าสายสัญญาณแบรนด์ LINK เอาไว้ให้ตรวจสอบกัน เพื่อเลือกซื้อครั้งต่อไปจะได้มั่นใจ ไม่ต้องกลัวของปลอม 

 

- เริ่มด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์ สังเกตง่ายๆ ด้วยเครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบจาก UL (Underwriter Laboratories Inc.) องค์กรจากประเทศสหรัฐอเมริกา (ก่อตั้งปี ค.ศ. 1894) ที่ดำเนินการให้การรับรองผลิตภัณฑ์ ทดสอบผลิตภัณฑ์ และจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัย ประเมินผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และระบบ โดยมีมาตรฐานรองรับไม่น้อยกว่า 1,200 มาตรฐาน เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบเฉพาะตามข้อกำหนดสากล

 

- เครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบจาก Intertek องค์กรที่ให้บริการทั้งการตรวจประเมินและรับรองระบบ ISO โดยหน่วยรับรองระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบการจัดการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

- เครื่องหมายสินค้า "American Standard" สินค้ามาตรฐานอเมริกา

 

- เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม RoHs ที่ซื้อขายในสหภาพยุโรป ว่าด้วยเรื่องการใช้สารที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 

 

- ระบุความยาวของสายสัญญาณชัดเจน ทั้ง 1,000 ฟุต (305 เมตร) หรือ 100 เมตร (Easy Box)

 

- “Product Warranty 30 years” รับประกันคุณภาพสินค้า 30 ปี และสติ๊กเกอร์ระบุ Description Part number

 

- ตรวจเช็ค Marking ของสาย โดยจะระบุ Brand, Description Part number, มาตรฐาน, วันที่ผลิตพร้อมระยะสาย เช่น LINK ULTRA CAT6 CABLE P/N US-9106 ---E197771-162 23AWG 4PR 75ºC CMR (UL) --- VERIFIED ETL TIA-568-C.2 RoHS COMPLIANT 0918 0742FT

 

- Conductor หรือตัวนำสายสัญญาณต้องเป็นทองแดงแท้ครบทั้ง 8 เส้น (4 คู่) ซึ่งของปลอมมักจะใช้เศษโลหะเคลือบทองแดงหรือทองแดงรีไซเคิล

 

- Insulation หรือฉนวนหุ้มทองแดงต้องทำโค้ดสีตามมาตรฐานสากล

 

* บางผลิตภัณฑ์อาจมีเครื่องหมายมาตรฐานหรือสถาบันรับรองอื่นๆ เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับรุ่นของผลิตภัณฑ์